
เดือนตุลาเวียนมา ทำไมฝนและน้ำท่วมยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบ เศร้าใจอ่ะครับ ในฐานะนักท่องเที่ยวสร้างสรรค์ อยากขอให้ทุกคนร่วมมือร่วมใจกันให้ความช่วยเหลือพี่น้องในประเทศเราที่ลำบากจากภัยน้ำท่วมกันด้วยนะครับ เราเที่ยวได้ประสบการณ์ ความรู้ และความทรงจำดีๆจากที่ต่างๆแล้ว ถึงเวลาลำบาก อย่าลืมให้กลับคืนแก่สังคมและชุมชน เพื่อฟื้นฟูแหล่งที่อยู่และแหล่งท่องเที่ยวให้ผู้อื่นได้มีโอกาสแชร์ประสบการณ์ที่ดีอย่างที่เราเคยได้กันด้วยน้อ เรียงหน้ามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า คราวที่แล้วได้ไปดูวิถีชีวิตชาวบ้านริมน้ำกับโฮมสเตย์เก๋เริ่ดกันมาแล้ว ตุลานี้ ลูกหลานเราปิดเทอม ผมขอแนะนำที่เที่ยวสร้างสรรค์เอาใจกระทรวงวัฒนธรรมกันเบาๆ กับธีม “ท่องเที่ยวสร้างสรรค์ เรียนรู้วัฒนธรรมพื้นบ้าน” ครับผม
ก่อนอื่นต้องเกริ่นก่อนเบาๆ ว่าธีมของเราเดือนนี้นี่มันอะไรยังไง สำหรับการท่องเที่ยวสร้างสรรค์ ผู้อ่านน่าจะคุ้นเคยกันอยู่แล้วใช่ป่ะครับ ว่าคือการที่เราเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน จุดนี้ เรียนรู้วัฒนธรรมพื้นบ้าน ก็คือจะไฮไลท์วัฒนธรรมที่น่าสนใจและเป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่ท่องเที่ยวหลายๆแห่งที่เราอาจจะยังไม่รู้จัก หรือยังไม่เป็นที่แพร่หลายในหมู่นักท่องเที่ยวกันมากนัก เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ขาเที่ยวสร้างสรรค์ของเราได้เดินทางไปเสาะแสวงหาวัฒนธรรมความเป็นไทยเอาใจคุณทวด วัฒนธรรมท้องถิ่นหลายที่อาจเก๋ไก๋ทำเราเซอร์ไพรส์ขากรรไกรค้าง จุดนี้ต้องลองไปดู สำหรับเดือนนี้ มีทีเด็ดมาแนะนำสองที่ถ้วนครับ
กระแสรอยไหมเค้าแรงว่าไม่ได้ จริงๆก็ไม่ใช่คนตามกระแสอะไร แต่เห็นว่ามันเกี่ยวกันเฉยๆ ก็เลยอยากจะเดินตามรอยไหม และนำเสนอ ศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่ เป็นที่แรก เชียงใหม่ถือเป็นหนึ่งจัดหวัดท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่นและความเป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมสูงมากครับ ทั้งในสายตานักท่องเที่ยว และจากมุมมองของคนไทยด้วยกันเอง ศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่ตั้งอยู่บนถนนสายเชียงใหม่ ภายในบ้านไม้สักทรงไทยที่แสดงออกถึงสถาปัตยกรรมล้านนาอันละเอียดอ่อนนั้น มีการรวบรวมงานศิลปะและหัตถกรรมดั้งเดิมของเชียงใหม่เอาไว้เป็นจำนวนมาก ไฮไลท์จะเป็นผ้าสบันงา (ตัดภาพไปยังชุดเลื่อมๆของชาย ชาตโยดม) และของที่ระลึกน่ารักให้เราซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน หรืออยากเข้าไปมีส่วนร่วมดูวิถีชีวิตชาวเขาเผ่าต่างๆก็ทำได้ หนึ่งในกิจกกรมเก๋ที่เราสามารถทดลองแล้วจินตนาการว่าเราเป็นนางเอกรอยไหม (ตัดภาพไปยังแอ๊ฟ ทักษอร) ก็คือการทอผ้าพื้นเมืองของชาวเขาครับ ตกเย็นก็นั่งรับประทานขันโตกอาหารพื้นเมืองชาวเหนือรสชาติเป็นเอกลักษณ์ และชมการแสดงฟ้อนพื้นเมืองชาวเชียงใหม่ หรือการแสดงจากชาวเขาเผ่าต่างๆแล้วแต่วันไหนจะไปป๊ะก๊ะเผ่าไหน บ้านไหนมีลูกสาวที่ทำท่าจะเปรี้ยวจนน้ำส้มอสร.ค้อนควรพาไปเที่ยวเชียงใหม่ วัฒนธรรมเชื่องช้าอ่อนช้อยของชาวเหนือจะซึมเข้ากระดูกจนน้ำส้มอสร.กลายเป็นแม่หญิงได้จนน่าตกใจ
ลงมาที่จังหวัดน่านครับ อยากจะพรีเซนท์ด้วยความเก๋จัดและรอบด้านของวัฒนธรรมจังหวัดน่านที่ถูกเอามารวมกันในที่เดียว คือ หอศิลป์พิงพฤกษ์ ตำบลไชยสถาน อำเภอเมืองน่านครับผม ที่นี่เค้าเก๋ยังไง? ต้องบอกก่อนว่าชื่อก็สื่ออยู่ว่าเป็นหอศิลป์ ดังนั้น ในสถานที่นี้จึงมีการจัดแสดงศิลปะแบบเมืองน่านดั้งเดิมของอาจารย์ สุรเดช กาละเสน ศิลปินเจ้าของผลงานจิตรกรรมฝาผนังตำนานประวัติศาสตร์เมืองน่าน ในอุโบสถวัดมิ่งเมืองซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย หอศิลป์พิงพฤฏษ์มีให้ดูหมด ไม่ว่าจะเป็น จิตรกรรม สื่อผสม ประติมากรรม ส่วนนี้ต้องสะกิดต่อมติสท์กันบ้างไม่มากก็น้อย ผลงานศิลปะแบบน่านดั้งเดิมของที่นี่ไม่ได้จะอยู่แต่ในกรอบรูปแขวนโชว์นะครับ แต่กระจายอยู่ทั่วไปตามส่วนต่างๆในบ้าน เข้าไปดูแล้วจะรู้สึกได้เลยว่านี่คือสถานที่ที่ผสมผสานความเป็นที่อยู่อาศัย และสุนทรียศาสตร์เอาไว้อย่างลงตัวจริงอะไรจริง ที่เก๋กว่านั้นคือครัวมะเก่า ครัวไม้ที่เก็บรวมรวมสิ่งของวัสดุเก่าแก่ดั้งเดิมของจังหวัดน่านที่ตกทอดสืบกันมาเป็นสิบสิบปี หลายชิ้นหาไม่ได้แล้วในปัจจุบัน แถมยังมีมุมทำผ้ามัดย้อมให้เราได้ทดลองทักษะด้านศิลปะด้วยตัวเอง ภูมิใจได้โล่ห์อ่ะจุดนี้ อุปกรณ์อะไรเค้าก็มีให้พร้อม สร้างสรรค์งานศิลปะเอากลับบ้านไปอวดคุณทวด แรงมากกกก
สองที่ที่แนะนำมานี้ เป็นแค่เศษเสี้ยววววของที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมอีกมากมายในประเทศไทยที่เราสามารถไปเสาะแสวงหาได้อีกมากนักนะครับ วัฒนธรรมตีความรวมไปถึงสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นเกือบทั้งหมด และยังบ่งบอกถึงประวัติศาสตร์ ความเป็นมา และวิถีชีวิตอันยิ่งใหญ่ของประเทศเราอีกด้วย ดังนั้นการมีส่วนร่วมกับวัฒนธรรมสามารถทำได้ง่ายๆเพียงเปิดใจ อย่าไปคิดว่าเราเป็นคนนอก ยึดถือวัฒนธรรมกรุงเทพฯ แล้วมองว่าวัฒนธรรมพื้นเมืองเป็นสิ่งที่ทีเอาไว้ดูเท่านั้นครับ ให้มองว่าวัฒนธรรมเหล่านี้คือวัฒนธรรมที่หลากหลายของไทย และเราเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมเหล่านี้ ให้เราโอบอุ้ม ยอมรับ และเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม เพื่อเปิดมุมมองใหม่และเข้าใจความแตกต่างที่เกิดขึ้น จะทำให้ประสบการณ์การท่องเที่ยวของเราลึกซึ้ง มีความหมาย และได้อะไรเพิ่มขึ้นอีกมากมายครับ ไปเที่ยวมาสนุกขนาดไหนมาเล่าให้เราฟังได้นะครับ มีคอมเม้นท์อะไรก็จัดมาเลย อย่าไปกลัว!จะรอฟังครับผม
ที่มา http://www.creativetourism.com/c_articles/detail_articles/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น