วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2555
Agoda.co.th ประกาศ 10 อันดับโรงแรมบูติคอนุรักษ์ธรรมชาติในเอเชียแปซิฟิกปี 2553
Agoda.co.th บริษัทผู้ให้บริการเว็บไซต์สำรองห้องพักในโรงแรมแบบออนไลน์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเครือ Priceline.com ประกาศ 10 อันดับโรงแรมบูติคอนุรักษ์ธรรมชาติในเอเชียแปซิฟิกปี 2553
ในปีพ.ศ. 2550 อโกด้าได้เผยรายชื่อโรงแรมอนุรักษ์ธรรมชาติขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อประชาสัมพันธ์โรงแรมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โรงแรมที่จะได้รับการจัดอันดับนั้น จะต้องเป็นโรงแรมที่มีมาตรการลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เชิงรุงอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่างเช่น โปปะ เม้าท์เท่น รีสอร์ทในประเทศพม่า ซึ่งใช้ผลิตภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้และรีไซเคิลของเสีย หรือ รีสอร์ทหรูอามาร์วิลาสในเมืองอัครา ซึ่งวางรากฐานการอนุรักษ์อย่างยั่งยืนด้วยการออกแบบสถาปัตยกรรมโดยใช้เทคนิคเดียวกับหลายศตวรรษก่อน เพื่อรักษาความเย็นไว้ภายในตัวอาคาร
ตั้งแต่มีการเริ่มต้นจัดอันดับในครั้งแรก การรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนก็ถูกนำมาปฏิบัติกันมากขึ้น โรงแรมส่วนใหญ่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเริ่มสนับสนุนให้แขกที่มาพักเก็บผ้าเช็ดตัวไว้ใช้ซ้ำโดยที่ไม่ต้องส่งซักทุกวัน หลายๆ โรงแรมก็เปลี่ยนมาใช้บัตรเพื่อเปิดระบบไฟฟ้าในห้องพัก และใช้หลอดประหยัดไฟในพื้นที่ส่วนกลาง โรงแรมจำนวนมากหันมาใช้กระดาษรีไซเคิล จำกัดการใช้พลาสติก ใช้ฝักบัวประหยัดน้ำ และใช้โปรแกรมชดเชยการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์
ความก้าวหน้าของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนไม่เพียงแต่ช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังช่วยยกระดับขึ้นไปอีก โรงแรมและรีสอร์ทที่อยู่ในการจัดอันดับปีนี้แสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมการท่องเที่ยวเชิงธรณีวิทยา โดยการดำเนินการในแต่ละวันต้องแน่ใจว่าได้อนุรักษ์และป้องกันในทุกๆ ด้านทางภูมิศาสตร์ รวมถึงวัฒนธรรมท้องถิ่น ประเพณี และชุมชน
นิฮิวาตู รีสอร์ท บนเกาะซัมบ้าประเทศอินโดนีเซีย หนึ่งในรีสอร์ทที่ติดอันดับโรงแรมอนุรักษ์ธรรมชาติของอโกด้าปีพ.ศ. 2550 จากความพยายามที่จะพัฒนาความเป็นอยู่ของชาวซัมบ้า จึงทำให้ติดอันดับอีกครั้งในปีนี้ จากความสำเร็จที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมูลนิธิซัมบ้าเพื่อช่วยขจัดความยากจนบนเกาะ
อีกชื่อหนึ่งที่คุ้นเคยกันดีในการจัดอันดับ คือ ซิกซ์เซ้นส์ ปี 2550 ซิกซ์เซ้นส์ เอวาซอน หัวหิน ได้รับการจัดอันดับเนื่องจากมีการเพาะปลูกพืชผักสวนครัวและจ้างงานคนท้องถิ่นผู้ด้อยโอกาส ในปี 2552 โซเนวา ฟูชิ ในมัลดีฟส์ ติดอันดับจากโครงการปลูกต้นไม้และโปรแกรมชดเชยการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ และในปีนี้ โซเนวาคีรี เกาะกูด ติดอันดับจากการพัฒนาให้ยั่งยืนยิ่งขึ้นด้วยการออกแบบ “อีโค วิลล่า” ต้นแบบบ้านพักอนุรักษ์ธรรมชาติปลอดคาร์บอนไดออกไซด์ 100 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนั้น โซเนวาคีรียังได้บริจาคอุปกรณ์สนามเด็กเล่นให้กับโรงเรียนท้องถิ่นและแบ่งรายได้ร้อยละ 1 ให้กับกองทุนสวัสดิการสังคม
รายชื่อโรงแรมอนุรักษ์ธรรมชาติปี 2553 จากอโกด้าในปีนี้ ได้ตระหนักถึงโรงแรมที่มีวิธีปฏิบัติในการอนุรักษ์เหนือกว่าเกณฑ์มาตรฐาน โรงแรมที่อยู่ในการจัดอันดับปีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติเท่านั้นแต่ยังสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสถานที่ท่องเที่ยวนั้นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมหรือการเสริมสร้างความเป็นอยู่ของชุมชนพื้นเมือง
โรเบิร์ต โรเซนสไตน์ ประธานบริษัทอโกด้ากล่าวว่า “สิ่งที่ดีที่สุดในการแผยแพร่รายชื่อโรงแรมอนุรักษ์ธรรมชาติประจำปีของเราก็คือได้เห็นแนวความคิดใหม่ๆ เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน สิ่งที่เริ่มเห็นกันมากที่สุดก็คือ โรงแรมใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและขยายวงกว้างออกไปจนเกิดผลประโยชน์กับทั้งชุมชน เราก็หวังว่ารายชื่อนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดแนวความคิดใหม่ๆ ต่อโรงแรมที่จะเพิ่มเข้ามาในปีถัดไป เช่นเดียวกับการประชาสัมพันธ์ให้เกิดการยอมรับแนวทางปฏิบัติใหม่ๆ ต่อสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยว”
โรงแรมใน 10 อันดับโรงแรมบูติกอนุรักษ์ธรรมชาติในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจากอโกด้าปี 2553 นี้ได้รับการชมเชยทั้งในด้านความมุ่งมั่นต่อการรักษาสิ่งแวดล้อมและความพยายามที่จะรักษาวัฒนธรรมของโลก
10 อันดับโรงแรมบูติกอนุรักษ์ธรรมชาติในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกปี 2553 จาก Agoda.co.th
1. อลีลา วิลล่าส์ ฮาดาฮา, กาฟู อะลิฟู อะทอล, มัลดีฟส์ (Alila Villas Hadahaa, Gaafu Alifu Atoll, Maldives)
ถ้าพูดในด้านสิ่งแวดล้อม อลีลา วิลล่าส์ ฮาดาฮา ถือเป็นตัวอย่างที่ดีเยี่ยมสำหรับทุกรีสอร์ท ได้รับรางวัลลูกโลกสีเขียวระหว่างขั้นตอนการก่อสร้าง ขั้นตอนการออกแบบ ระบบบริหารจัดการ และการปฏิบัติงานที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามแนวคิดคาร์บอนสมดุล การออกแบบวิลล่าทั้งบนน้ำและบนพื้นดินของรีสอร์ทหรูแห่งนี้สนับสนุนการท่องเที่ยวยั่งยืนด้วยการรองรับน้ำฝนและการระบายอากาศตามธรรมชาติเพื่อให้เกิดความเย็นภายใน และสิ่งที่ได้ปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่องก็คือการใช้กระดาษรีไซเคิล จัดหาการผลิตในท้องถิ่น และมีการผลิตน้ำดื่มแบบรีเวิร์สออสโมซิสสำหรับพนักงาน ในระดับภูมิศาสตร์ อลีลา วิลล่าส์ ฮาดาฮา มีการจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นให้แขกที่มาพักได้มีโอกาสสำรวจและเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงการเยี่ยมชมชุมชนพื้นเมือง และนำเที่ยวเกาะโดยนักชีววิทยาของรีสอร์ท
2. โซเนวา คีรี, เกาะกูด, ประเทศไทย (Soneva Kiri, Koh Kood, Thailand)
หนึ่งในรีสอร์ทเครือซิกซ์เซ้นส์ โซเนวาคีรี ตั้งอยู่บนเกาะกูดจังหวัดตราด การจัดการด้านสิ่งแวดล้อมเป็นรากฐานของรีสอร์ทหรูแห่งนี้ รีสอร์ทถูกสร้างขึ้นด้วยวัสดุบนเกาะเกือบทั้งหมด (ไม้ไผ่, หินทราย, ขอนไม้, โคลนอิฐ, และประติมากรรมดินเผา) และของบางส่วนทำขึ้นโดยช่างฝีมือชาวกะเหรี่ยงทางภาคเหนือของประเทศไทย นอกจากนั้นโซเนวาคีรียังมีความโดดเด่นแบบ อีโค-วิลล่า หลังคาประดับด้วยเฟิร์นและฉากกันอาบน้ำทำจากขวดโซดารีไซเคิล และยังมีกิจกรรมต่างๆ ให้แขกที่มาพักประทับใจกับสถานที่ยิ่งขึ้นด้วยการรับประทานอาหารบนต้นไม้ เรียนดูดาว เยี่ยมชมฟาร์มผึ้ง ฟาร์มไข่มุก หรือเรียนทำสวน
3. กายานา อีโค รีสอร์ท, มาเลเซีย (Gayana Eco Resort, Malaysia)
ตั้งอยู่บนเกาะปูเลากายา ริมชายฝั่งโกตากินะบะลู กายานา อีโค รีสอร์ท อยู่ท่ามกลางป่าโกงกางและแนวปะการัง แนวปะการังและปลาเป็นจุดโฟกัสหลักของศูนย์การวิจัยของรีสอร์ท ซึ่งจัดให้มีโปรแกรมฟื้นฟูแนวปะการังโดยให้แขกที่มาพักได้มีส่วนร่วมในการปลูกปะการังด้วย นอกจากนั้นศูนย์การวิจัยยังเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวสามารถชมม้าน้ำ ปลาดาว และหอยกาบยักษ์ได้อย่างใกล้ชิด หรือเดินสำรวจป่าพร้อมไกด์นำทางซึ่งจะแนะนำให้แขกที่มาพักได้รู้จักกับสัตว์นานาชนิดที่อาศัยอยู่ในป่าบนเกาะนี้ (ทางรีสอร์ทอ้างว่ามีสัตว์ป่าถึง 40 ชนิดที่อาศัยอยู่ที่นี่) กิจกรรมท่องเที่ยวเชิงภูมิศาสตร์รวมไปถึงการพายเรือคะยักรอบอ่าว ให้อาหารปลา ดำน้ำชมปะการัง และทัศนศึกษาหาดฮอร์นบิล
4. ตาฮิ, โอฮัว, นิวซีแลนด์ (Tahi, Ohua, New Zealand)
ครอบคลุมพื้นที่ 740 เอเคอร์ซึ่งประกอบไปด้วยฟาร์ม ป่า ป่าชายเลน และชายหาดสำหรับเล่นวินด์เซิร์ฟ ไม่ยากเลยที่จะเห็นแรงจูงใจที่อยู่เบื้องหลังความปรารถนาของ ตาฮิ รีสอร์ทในการรักษาสิ่งแวดล้อม รีสอร์ทนี้ตั้งอยู่ห่างจากเมืองโอ๊คแลนด์ 2.5 ชั่วโมง ประกอบไปด้วยบังกะโลหรูสองหลัง หลังหนึ่งเหมาะสำหรับคู่รักและอีกหลังหนึ่งเหมาะสำหรับครอบครัว แต่ละหลังได้รับการปรับปรุงให้หรูหราตามมาตรฐานโดยใช้วัสดุที่หาได้ในท้องถิ่น ใช้น้ำฝนมาทำน้ำดื่ม ปลูกผักปลอดสารพิษภายในรีสอร์ท และยังมีฟาร์มผึ้งซึ่งผลิตน้ำผึ้งมานูก้าเพื่อสุขภาพ ด้านความสมานสามัคคีกับชนเผ่าพื้นเมืองเมารีนั้น ผู้บริหารของรีสอร์ทมองว่าตนเองเป็นเหมือนผู้ดูแลรักษามากกว่าที่จะเป็นเจ้าของสถานที่ และสละเวลาในการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมด้วยการปลูกต้นไม้ ใช้วัตถุดิบที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ และปกปักรักษาพืชและสัตว์ในบริเวณนั้น
5. บันจาร์ โทลา, อินเดีย (Banjaar Tola, India)
โรงแรมสไตล์ซาฟารีในเครือทัช โฮเต็ลส์ ตั้งอยู่ใจกลางอุทยานแห่งชาติกัณหา มองเห็นทิวทัศน์ของป่าไม้ไผ่และเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของเสือนานาชนิด ที่พักของ บันจาร์ โทลา ประกอบไปด้วยเต๊นท์หรูสไตล์ซาฟารี 18 หลัง สร้างขึ้นจากวัสดุท้องถิ่นเช่นไม้ไผ่และหวาย ตกแต่งด้วยศิลปะของชนพื้นเมืองบาสตาร์และโดกรา บันจาร์ โทลามีวิถีปฏิบัติแบบ “เอิร์ธ” (EARTH - Environment Awareness and Renewal at Taj Hotels) ซึ่งเป็นแนวคิดริเริ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของเครือทัชโฮเต็ลส์โดยการใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและการนำกลับมาใช้ใหม่ และได้รับการรับรองจากโครงการเอิร์ธเช็คซึ่งเป็นองค์กรที่อยู่เบื้องหลังโครงการลูกโลกสีเขียว ทุกโรงแรมและรีสอร์ทในเครือมีวิถีปฏิบัติแบบ “เอิร์ธ” เพื่อการอนุรักษ์พลังงานและความยั่งยืน นอกจากนั้นยังมีจุดมุ่งหมายในการพัฒนาความเป็นอยู่ของชาวอินเดียพื้นเมืองให้ดีขึ้นโดยจัดให้มีการศึกษา อบรม และจ้างงาน
6. โรงแรมยูอาร์บีเอ็น, เซี่ยงไฮ้, จีน (URBN hotel, Shanghai, China)
ตั้งอยู่ในโรงงานที่ถูกดัดแปลงขึ้นในพื้นที่สัมปทานฝรั่งเศสของเซี่ยงไฮ้ การปรับปรุงใหม่ใช้เฉพาะวัสดุรีไซเคิลและวัสดุที่หาได้ในท้องถิ่น โรงแรมสไตล์มินิมอล URBN Shanghai แห่งนี้เป็นโรงแรมคาร์บอนสมดุลแห่งแรกในประเทศจีน ความยั่งยืนเป็นแนวทางปฏิบัติที่ URBN ซึ่งใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและประสพความสำเร็จในตามแนวคิดคาร์บอนสมดุล โดยการเข้าร่วมโครงการล้านต้นกล้า (Million Tree Project) ซึ่งเป็นโครงการที่ชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยการจัดซื้อต้นกล้าที่ปลูกขึ้นในทะเลทรายคุหลุนของมองโกเลีย แขกที่มาพักจะได้รับการเชื้อเชิญให้เข้าร่วมในพิธีชงชาแบบดั้งเดิม เรียนการประดิษฐ์ตัวอักษร และรำไทเก๊กร่วมกับคนท้องถิ่น
7. บาเมอร์รู เพลนส์, ออสเตรเลีย (Bamurru Plains, Australia)
ตั้งอยู่บริเวณป่าชายเลนในอุทยานแห่งชาติคาคาดู บาเมอร์รู เพลนส์ เป็นส่วนหนึ่งของฟาร์มเลี้ยงควายและปศุสัตว์เอกชนบนพื้นที่ 75,000 เอเคอร์ บูติกรีสอร์ทแห่งนี้อนุรักษ์นิยมถึงขั้นไม่มีโทรทัศน์หรือโทรศัพท์ในบังกะโล (มีเพียงแค่ 3 หลังเท่านั้นที่มีเครื่องปรับอากาศ โดยต้องชำระค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) พลังงานที่ใช้ในรีสอร์ทร้อยละ 75 มาจากพลังงานแสงอาทิตย์ กรองน้ำบาดาลมาเป็นน้ำดื่ม ขวดต่างๆ ถูกนำมารีไซเคิล และสบู่ก็ปลอดสารเคมี สัตว์ป่าออสเตรเลียและทิวทัศน์ทางภูมิศาสตร์เป็นเหมือนภาพพื้นหลังของบาเมอร์รู แขกที่มาพักสามารถออกทัวร์เที่ยวชมศิลปะหินในคาคาดูและอาร์นเฮ็มแลนด์เพื่อชมประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชนพื้นเมือง
8. โทปาส อีโคลอดจ์, ซาปา, เวียดนาม (Topas Ecolodge, Sapa Valley, Vietnam)
เป็นรีสอร์ที่มีชีวิตชีวาตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหว่างเหลียน แขกของโทปาส อีโคลอดจ์จะได้ชมวิวขุนเขาหว่างเหลียนเซินหรือ “ตันกีนีส แอลป์ส” อันเขียวชอุ่ม ชมนาขั้นบันได และหมู่บ้านในหมอก รีสอร์ทใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าให้กับวิลล่า 25 หลัง บำบัดน้ำเสีย และใช้วัสดุที่หาได้ภายในท้องถิ่น นอกจากนั้นยังรักษาระดับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้อยู่ในระดับต่ำ โทปาส อีโคลอดจ์มีส่วนช่วยเหลือชุมชนท้องถิ่นด้วยการจ้างงานชาวเผ่าพื้นเมืองในซาปา เช่น ม้ง, ซ-หยาวแดง, เตย, และเส่ย กิจกรรมต่างๆ ที่มีในรีสอร์ทก็คือเดินชมหมู่บ้านรอบๆ, เดินป่า, ปั่นจักรยานเสือภูเขา, และชมชีวิตสัตว์ป่า นอกจากนั้นอุทยานแห่งชาตินี้ยังเป็นเสมือนบ้านของนกกว่าร้อยสายพันธุ์และสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ
9. นิฮิวาตู รีสอร์ท, ซัมบ้า, อินโดนีเซีย (Nihiwatu Resort, Sumba Indonesia)
ตั้งอยู่บนชายหาดทอดยาว 2.5 กิโลเมตรบนเกาะซัมบ้า บูติกรีสอร์ทแห่งนี้ได้รับรางวัลระดับนานาชาติด้านความพยายามอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและพัฒนาชุมชน และรีสอร์ทแห่งก็เป็นหนึ่งใน 10 โรงแรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของอโกด้าในปี 2550 ด้วย บังกะโลทั้ง 13 หลังถูกสร้างขึ้นจากฝีมือชาวอินโดนีเซียและใช้วัสดุที่หาได้ในท้องถิ่น และมีการจ้างงานชาวซัมบ้าทำงานที่รีสอร์ทถึงร้อยละ 95 ของพนักงานทั้งหมด ในปี พ.ศ. 2544 เจ้าของรีสอร์ทได้ร่วมจัดตั้งมูลนิธิซัมบ้าขึ้นเพื่อขจัดความยากจนในชุมชนชาวซัมบ้า โครงการของมูลนิธิรวมไปถึงการสร้างคลินิคทางการแพทย์ จัดหาน้ำและอุปกรณ์การเรียนให้กับโรงเรียนต่างๆ โครงการล่าสุดคือการเปลี่ยนมาใช้เตาแก๊สแทนเตาฝืนแบบดั้งเดิมเพื่อป้องกันการเสียชีวิตจากการสูดดมควันไฟและรักษาป่าไม้ผลัดใบของซัมบ้า
10. ไซโลโซ บีช รีสอร์ท, สิงคโปร์ (Siloso Beach Resort, Singapore)
ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าไม้บนเกาะเซ็นโตซ่า ไซโลโซจ้างพนักงานที่มีจรรยาบรรณสีเขียวเพื่อลดการทำอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม รีสอร์ทถูกสร้างขึ้นโดยให้มีผลกระทบต่อพืชน้อยที่สุด, ใช้หลอดไฟ CFL, รีไซเคิลของเสีย, และนำน้ำจากเครื่องปรับอากาศมาใช้กับเครื่องทำน้ำอุ่น การออกแบบรีสอร์ทก็มีส่วนช่วยให้เกิดความยั่งยืน เช่น สวนบนหลังคาทำให้เกิดความเย็นภายในห้องพัก และวิลล่าบางหลังก็สร้างไว้รอบๆ ต้นไม้ ด้วยความที่ไซโลโซเป็นรีสอร์ทสีเขียว จึงทำให้มีสัตว์ป่านานาชนิดรวมถึงกบ กิ้งก่า และนก อาศัยอยู่มากมาย นอกจากนั้นไซโลโซยังสนับสนุนกิจกรรมสีเขียวต่างๆ ในท้องถิ่น เช่น การประกวดมิสเอิร์ธและสิงคโปร์จีวัน
ที่มา http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1290413374&grpid=no&catid=09
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น